หากใครที่เคยไปเที่ยวหรือออกทริปที่อิตาลี แล้วได้แวะเที่ยวเมืองหลายๆเมืองแล้วไม่ว่าจะโรม ฟลอเรนซ์ เวนิส หรือมิลานกระทั่งเบื่อ แล้วอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปสัมผัสกับความสวยงามของอิตาลีที่แตกไม่เหมือนกับเดิม มาลองกับทริปเที่ยวอิตาลี 10 วัน (https://funnytripholiday.com/blog/travel-to-italy-for-10-days/) แถบเมืองริมฝั่งที่ไม่ได้ยอดนิยมดูสิ แม้ว่าจะดูเฉยๆแต่ก็มีเสน่ห์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งทิวทัศน์สมุทรสวยงาม อาหารอร่อย และบรรยากาศพักผ่อนแบบสบายๆที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวสายชิลล์ และคนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายบ้างสักหนึ่งครั้ง
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/-10-94e7d0ab96f7521d.jpg)
(https://funnytripholiday.com/blog/travel-to-italy-for-10-days/)
เที่ยวเมืองชายฝั่งอิตาลี 10 วัน: แนะนำฤดูที่คุณไม่ควรพลาด!
ถ้าหากพูดถึงการเที่ยวทะเล มั่นใจว่าหลายคนมักต้องรำลึกถึงฤดูร้อนเสมอ เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่เหมาะกับการเดินเล่นริมริมหาด อาบแดดชิลๆเล่นน้ำแบบเย็นสบาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งได้แบบเต็มที่ ซึ่งถ้าหากคุณวางแผนเที่ยวอิตาลี 10 วันในช่วงฤดูร้อน เมืองริมตลิ่งคือคำตอบแน่นอน เนื่องจากว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นที่คนยุโรปและนักท่องเที่ยวจากทั่วทั้งโลกต่างมาสมุทรเพื่อเที่ยวพักกันแบบเต็มที่ แต่สำหรับคนไทยที่ไม่ถูกใจอากาศร้อน เพราะว่าเบื่อกับฤดูร้อนที่บ้านพวกเราเองอยู่แล้ว อิตาลีเองช่วงนี้ก็ไม่แตกต่างจากบ้านพวกเรามาก แถมร้อนแบบแห้งๆในแบบที่หายใจแล้วแสบจมูกกันเลยทีเดียว ซึ่งใครที่ต้องการสัมผัสซัมเมอร์อิตาลีก็จัดไป แต่หากใครอยากเที่ยวแบบอากาศสบายๆก็เลือกตามฤดูอื่นได้เหมือนกัน ได้แก่
ฤดูใบไม้ผลิ - อากาศที่เริ่มอุ่นๆดอกไม้เริ่มผลิบาน ฝนโปรยปรายปลายบ้างน้อย เหมาะกับการเดินเที่ยวป่า ชมธรรมชาติ และยังไปช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อย เหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวสบายๆ
ฤดูร้อน - ช่วงท็อปได้รับความนิยมของการเที่ยวทะเล อากาศร้อนจัด โดยมีอุณหภูมิ 25-35 °C โดยนักท่องเที่ยวและคนอิตาลีจะแห่ไปริมตลิ่ง ทำกิจกรรมกลางแจ้งกันแบบเต็มที่
ฤดูใบไม้ตก - อากาศเริ่มเย็นลงแบบมองเห็นได้ชัด ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี บรรยากาศแบบเบาสบายที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก เหมาะกับการเดินเล่นชมเมืองและเที่ยวงานเทศกาลตามเมืองต่างๆ
ฤดูหนาว - เหมาะกับคนที่ชื่นชอบอากาศหนาว และหิมะ ช่วงคริสต์มาสหรือปีใหม่ทางเหนือของอิตาลี หิมะจะตกหนัก เล่นสกีได้แบบเต็มที่ แต่ในเมืองริมสมุทรส่วนมากจะเงียบ ร้านปิดกันเยอะแยะ และสามารถเข้าเที่ยวธรรมชาติได้แบบสบายๆ
อิตาลีใต้สำหรับผู้ชื่นชอบชีวิตช้า: 10 วันแห่งการผจญภัยในดินแดนในฝัน!
ทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวหลายๆคนในช่วงพักร้อน ด้วยเหตุว่าเป็นหลักที่ริมตลิ่งที่เหมาะกับการมาพักอย่างแท้จริง แล้วยังได้เที่ยวในสถานที่หรือแลนด์มาร์กสำคัญที่สวยๆน้ำทะเลใสๆของสมุทรเมติเตอร์เรเนียมได้แบบเต็มที่ โดยเหตุนั้นมาส่องริมฝั่งอมาลฟี้ในการเที่ยวอิตาลี 10 วันกันดีกว่า ว่ามีเมืองไหนน่าเที่ยวบ้าง
อมาลฟี (Amalfi) - เมืองเล็กริมชายฝั่งทะเลที่ผสมผสานธรรมชาติกับประวัติศาสตร์ได้อย่างกลมกลืน คุณสามารถเดินเล่นในเมืองแบบชิลล์ๆหรือจะล่องเรือชมทิวทัศน์ชายฝั่งก็ได้บรรยากาศที่แตกแตกต่างไป ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดในเมืองนี้เลยคือ ริมทะเลอมาลฟี ที่เต็มไปด้วยน้ำทะเลใส ทิวทัศน์สวยเหมาะกับการนอนอาบแดด พักหย่อนยานใจได้แบบเต็มที่, มหาวิหารอันดรอว์ ที่กระโดดเด่นด้วยบันไดหินอ่อน และพิพิธภัณฑ์กระดาษโบราณ ที่สอนทำกระดาษแบบดั้งเดิมให้คุณได้ทำเองกับมือ
โปซิตาโน (Positano) - เมืองริมเขาหินสุดคัลเลอร์ฟูล บ้านเรือนหลากหลายสีสันลดหลั่นลงสู่สมุทรอย่างสวยงาม กระทั่งกลายเป็นภาพจำของริมตลิ่งอมาลฟี ที่นี่มี Spiaggie Grande เป็นชายทะเลหลักที่ถ่ายภาพได้สวยมาก, เส้นทางเทพเจ้า (Path of Gods) ที่เปิดให้เดินชมทิวทัศน์ และโบสถ์ Santa Maria Assunta ที่กระเบื้องโมเสกด้วยโดม จนถึงกระโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ซอร์เรนโต (Sorrento) - เมืองเล็กริมอ่าวเนเปิลส์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "ประตูสู่ริมฝั่งอมาลฟี" เต็มไปด้วยเสน่ห์จากทั้งทิวทัศน์สมุทร และกลิ่นอายของเมืองยุโรปเก่าๆจุดเช็กอินที่น่าเที่ยวและน่าสนใจเลยคือ ท่าเรือ Marina Grand ที่มีร้านอาหารสมุทรและเต็มไปด้วยวิถีชีวิตแบบคนเมือง, สวน Villa Comunalae จุดชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตก และ Bath Of Queen Giovanna สระธรรมชาติที่ปิดล้อมไปด้วยผา เหมาะกับการว่ายน้ำ พักคลายร้อน
ราเวลโล (Ravello) - เมืองบนผาสูงที่เงียบสงบแต่ทิวทัศน์สุดอลังการ การันตีความงามด้วยการถูกใช้ไปโปรโมตการท่องเที่ยวของอิตาลี มีจุดไฮไลต์เลยคือ Villa Rufolo คฤหาสน์พร้อมสวนที่สวยงามให้เปิดชม, Villa Cimbrone ที่มีมุมถ่ายภาพโรแมนติกสุดๆและมหาวิหารราเวลโล ที่มีศิลป์ผสมผสานระหว่างบาโรกกับโรมาเนสก์ได้แบบลงตัว
คาปรี (Capri) - เกาะสรวงสวรรค์แห่งสมุทรเมดิเตอร์เรเนียม ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเป็นที่พักของคนดังทั้งโลก แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในแถบริมฝั่งอมาลฟีโดยตรง แต่ก็ใกล้กระทั่งสามารถไปเที่ยวได้อย่างงายดาย สถานที่ท่องเที่ยวดังๆจะมี Blue Grotto ถ้ำมรกตที่มีน้ำในถ้ำส่องแสงแสงสีฟ้าอย่างน่าทึ่ง, ถนนหนทาง Via Krupp ทางเดินคตบดที่ให้ชมทิวทัศน์สมุทรสุดปัง และสวนออกัสตัส ที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวยๆและทิวทัศน์สมุทรสุดอลังการให้ชมได้พร้อม
บทสรุป
สำหรับใครก็ตามที่วางแผนจะไปเที่ยวหรือออกทริปที่อิตาลีแบบยาวๆ10 วันเต็ม โดยมีเป้าหมายคือการพัก ทางตอนใต้ของอิตาลีตามแนวริมฝั่งอมาลฟี้ นับว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบปัญหาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากว่ามีประสบการณ์สุดพิเศษให้ได้สัมผัสกันแบบเต็มที่ ทั้งการเดินเที่ยวชมเมือง บรรเทาร้อนที่สมุทร หรือลุยกิจกรรมกลางแจ้งอีกมากมาย ผ่านเมืองต่างๆในแถบริมฝั่งอมาลฟี้ และอิตาลีใต้ ซึ่งรับรองได้ว่าถ้าเกิดคุณได้ลองมาสักหนึ่งครั้งจะได้รับประสบการณ์พักแบบสบายๆที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน