ลงประกาศฟรี โพสต์ฟรี โปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN

ตลาดซื้อขายสินค้าออนไลน์ โฆษณาสินค้าฟรี => อื่นๆ ที่ไม่ตรงหมวดข้างบน => Topic started by: luktan1479 on August 01, 2023, 05:10:35 PM

Title: ม.หอการค้าฯ ฝากรัฐบาลใหม่ปฏิรูปวงจรข้าว ช่วยชาวนาไทยหลุดพ้นหนี้ท่วม
Post by: luktan1479 on August 01, 2023, 05:10:35 PM
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยบทวิเคราะห์ "10 ปี ชาวนาไทย จนเพิ่ม หนี้ท่วม" ว่า ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เป็นวังวนการแทรกแซงตลาดข้าวที่เกิดขึ้นในทุกรัฐบาล ทั้งการประกันราคา ประกันรายได้ (http://bywaysbb.co.uk/the-best-way-to-win-your-lottery/) หรือจำนำข้าว แต่รายได้ชาวนายังต่ำสุดเมื่อเทียบกับเกษตรกรที่ปลูกทุเรียน ปาล์มน้ำมัน และยางพารา
Quote"10 ปีที่แล้ว ต้นทุนต่ำ รายได้สูง ปัจจุบันนี้ต้นทุนสูง รายได้ต่ำสลับกัน จากวงจรอุบาทว์ คือ ปลูกข้าว, ได้ผลผลิตข้าว, ขายข้าวที่ได้จากการผลิต และนำเงินไปใช้จ่าย กู้ยืมเงิน ชำระหนี้ ปลดหนี้วนไป ทางออกของปัญหา คือต้องปฎิรูปข้าวไทย 360 องศา" นายอัทธ์ กล่าว
*เปรียบเทียบระหว่างชาวนาไทย กับอินเดีย เวียดนาม เมียนมา
Quote"10 ปี ชาวนาไทยจนที่สุดในเอเชีย และอาเซียน เนื่องจากผลผลิตข้าวไทยลดลง รายได้ และเงินคงเหลือของไทยน้อยกว่าคู่แข่ง และต้นทุนการผลิตของไทยเพิ่มขึ้น รองจากอินเดีย โดยโครงสร้างต้นทุนการผลิต ทั้งค่าปุ๋ย ค่าเช่าที่ดิน และค่าดูแลรักษา พุ่งทะยานในช่วง 10 ปี" นายอัทธ์ กล่าว
*10 ปี ข้าวไทย 10 ปี จุดอับ บทเรียนที่สิ้นหวัง1. ผลผลิตข้าวต่อไร่ของไทยต่ำกว่าเวียดนาม 3 เท่า (ไทยเฉลี่ย 450 กก.ต่อไร่ เวียดนามมากกว่า 1,000 กก. หรือมากกว่า 1 ตันต่อไร่)2. ชาวนาไทยมีอาชีพทำนา แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวนามืออาชีพ ขณะที่เวียดนามคือชาวนาอาชีพ จากชาวนาไทยส่วนใหญ่คิดแค่ 2 เรื่องคือ ราคากับผลผลิต ไม่ค่อยคิดเรื่องการปรับลดต้นทุน แต่ชาวนาเวียดนามคิดในเรื่อง "3 ลด 3 เพิ่ม"3. ปลดหนี้โดยขายที่นา ชาวนาขาดทุนสะสมจากการทำนาต้องขายที่นา และเช่าที่นาตัวเองเพื่อทำการเกษตรต่อ นโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมาไม่สามารถปลดหนี้ให้กับชาวนาได้4. แหล่งน้ำไม่พร้อม และปัญหาโลกร้อน เวียดนามทำนาได้ 3 ครั้งต่อปี ไทยทำได้ 1-2 ครั้ง ประกอบกับไทยเจอเอลนโญ ส่งผลให้ขาดน้ำเพิ่ม5. เงินวิจัยน้อย ไทยใส่เงิน 200 ล้านบาทในการวิจัย แต่เวียดนามใส่เงิน 3 พันล้านบาท ส่วนอินเดีย จีน และญี่ปุ่นใส่เงินวิจัยข้าวมากกว่า 1 พันล้านเหรียญต่อปี6. นโยบายการแทรกแซงตลาด ทำลายศักยภาพการแข่งข้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาข้าวอย่างแท้จริง7. ยิ่งทำนา หนี้ยิ่งเพิ่ม ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตต่อไร่ลดลง ราคาขายลดลง8. ข้าวไทยไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่ พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหันไปรักสุขภาพมากขึ้นและข้าวหอม และนุ่ม9. เอกลักษณ์ข้าวไทยลดน้อยถอยลง (ความหอม ความนุ่ม) มีการปลอมปน และเร่งการผลิตบนที่ดินที่ขาดคุณภาพ10. การควบคุมการกระจายพันธุ์ข้าว การกระจายพันธุ์ข้าวเพื่อควบคุมคุณภาพข้าวเวียดนามทำได้ดีกว่าไทย*ฝากรัฐบาลใหม่ แก้ปัญหาข้าวและชาวนาไทยแบบจริงจังนายอัทธ์ กล่าวว่า นโยบายการแทรกแซงตลาดข้าว ไม่ได้ทำให้เงินในกระเป๋าของชาวนามีเงินเหลือ ขณะเดียวกัน ยังทำให้รายได้ของชาวนาติดลบด้วย ดังนั้น จึงขอฝากไปยังรัฐบาลใหม่ให้แก้ปัญหาเรื่องชาวนา และข้าวไทย ดังนี้1. ต้องแก้ปัญหาชาวนา และปัญหาข้าวไทยให้ตรงจุด2. ต้องดูประเทศคู่แข่งเป็นกระจกสะท้อนว่ามีการพัฒนาข้าว และทำให้ชาวนามีรายได้เป็นบวกได้อย่างไร ไม่ละเลยต่อการมองศักยภาพการผลิตเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่ง3. เปลี่ยนเงินแทรกแซงตลาดข้าว หรือสินค้าเกษตร มาเป็นรางวัลให้เกษตรกร ว่า ใครสามารถยกระดับผลผลิตต่อไร่ หรือลดต้นทุนการผลิตได้ จะมีรางวัล ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันไปในตัวด้วย4. รัฐบาลต้องดูปัจจัยเรื่องน้ำ ที่เป็นเรื่องใหญ่ของเกษตรกร อาทิ ให้ซอฟต์โลน หรือให้เงินอุดหนุนช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกร เพื่อขุดบ่อกักเก็บน้ำหรือสระน้ำ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงถึงสำหรับแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้ชาวนาที่ผ่านมา เกษตรกรแก้ด้วยวิธีของตนเองโดยการขายที่นา อย่างไรก็ดี มองว่าการแก้หนี้จริงจัง ต้องมองให้เห็นถึงปัญหาของข้าว ซึ่งทางออกมี 2 ข้อ คือ 1. ลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เหลือเพียงพอจะนำไปชำระหนี้ และวินัยการก่อหนี้ของคนไทยก็ควรปรับเปลี่ยน เช่น ชาวนาเมียนมา และเวียดนาม ยังใช้แรงงานสัตว์เพื่อช่วยลดต้นทุน และ 2. ยกระดับผลผลิตต่อไร่*จีนครองอันดับ 1 ไทยอยู่อันดับ 6 การผลิตข้าวของโลก
*อินเดีย ไทย เวียดนาม ส่งออกข้าว 3 อันดับแรกของโลก