บอกยังไง ให้ลำพองใจผู้ฟัง ให้เขารักเรา

[dsmol19]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

บางทีก็อาจจะเป็นการถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความหวังดีและตั้งใจในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำอ่อนโยน เหมาะสม รวมทั้งนุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นอย่างไรบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งค่ะ" การใช้ความเป็นกันเองจะก่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายรวมทั้งเป็นมิตรด้วยนะคะ อีกหัวข้อคืออวัจนะภาษาจ้ะ กิริยาอาการการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


โกรธเคืองหว่างดวงตาพวกเราหรือการสัมผัสบางสิ่งบางอย่างได้แก่ การแตะไหล่เพื่อพลังใจ การจับมือเพื่อปลอบโยนปะโลม ตบมือให้เพื่อกำลังใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณแล้วก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายเข้าไปใหญ่

2. ฝึกฝนพูด คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

ด้วยเหตุว่าคำว่า"ไม่" มันบอกให้ดูดีย า ก กล่าวบอกคำจำกัดความเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักนำมาใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่น แสดงถึงความรู้สึกไม่ชอบใจในตัวเขาหรืองานของเขา หลายๆคนใช้คำนี้จนติดจนเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ลองเปลี่ยนแปลงการใช้มันดูนะคะ ยกตัวอย่างเช่น "ลองทำอย่างนี้ดูดีไหม" "อย่างนี้ดีแล้วนะ หากเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณมีความรู้สึกว่าจะคืออะไรค่ะ" แปลว่า พวกเราไม่ได้ไม่ยอมรับความคิดของอีกฝ่ายแต่ทดลองแนะนำเพิ่มเติมเสมือนการเสนอแนะเขา

3. มองดูให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นดังดาบ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"สิ่งเดียวบางทีอาจไม่พอ คุณจะต้องฝึกขั้นตอนการการคิดอย่างมีสติและก็วิเคราะห์ไปพร้อมเพียงกันด้วยค่ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนยังไง เรื่องไหนควรพูด เรื่องไหนไม่ควรพูด แต่ว่าที่สำคัญไปๆมาๆกกว่านั้น ทุกคราวถ้าหากจะมีการว่ากล่าว ตัดเตือน ปรับแก้จุดบกพร่องของงาน ให้ทดลองมองดูให้ได้ 3 มุม


1. มุมของพวกเรา : เราคิดว่าอย่างไร ในตำแหน่ง หน้าที่พวกเรา เราควรจะมองแบบไหน จัดการกับปัญหายังไง


2. มุมของเค้า : ถ้าเกิดพวกเราเป็นเค้าเราจะทำอย่างไร ถ้าเกิดเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนแบบงี้เช่นกันเราจะรู้สึกเช่นไร แล้วเราจะแก้ไขปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นที่มอง 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาคืออะไร เล็ก ใหญ่มากแค่ไหน ขนาดที่จะต้องทะเลาะกันเลยอย่างนั้นหรือ เถียงด้วยเรื่องนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น

หากคุณดูให้ได้ครบทุกมุม คุณจะแลเห็นทุกด้านของความคิด รู้เรื่องเค้า รู้เรื่องเรา รู้เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดเยอะขึ้น

4. อย่าว่ากล่าวผู้ใดกัน ต่อหน้าต่อตาคนอื่น

ไม่มีผู้ใดชอบการเช็ดกติเตียนจ้ะ เราก็เช่นกันใช่ไหมล่ะขา ยิ่งโดนดุเฉพาะหน้าคนอื่นๆด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนรุนแรงเสียอย่างยิ่งจริงๆการด่าผู้ใดกันแน่ต่อหน้าคนอื่นๆมันเป็นการตั้งอกตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังทลายยับจำพวกที่เรียกว่า

ผู้ที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปจนกระทั่งวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ และก็ความข้องเกี่ยวระหว่างคุณและก็เค้าจะเสียไปในทันที ท้ายที่สุดแล้วไม่มีฝ่ายไหนชนะ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากแนวทางการทำอย่างงี้จ้ะ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวมเสนอแนะว่าไม่สมควรทำเป็นอย่างมากจ้ะ

5. มีนายช่างชม

ชมเมื่อเค้าทำดี ทำงานได้ดิบได้ดี ช่วยเหลือคนอื่นๆ ส่งผลงานที่ดี ประพฤติดี คุณก็ควรจะดูเค้าด้วยความจริงใจที่ห่วงใย คำบอกเล่า คำจา น้ำเสียงที่ดี หน้าตาปลื้มใจพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เนื่องจากว่าสิ่งกลุ่มนี้ส่งผลต่อความรู้สึกมากมายนะคะ คนที่ถูกชมเค้าจะเสมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงผลักดัน มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไป

การมีศิลปการดูที่ดีนั้น ไม่มีความจำเป็นจำเป็นต้องชมที่ผลงานของเค้าแค่นั้นค่ะ อย า กให้ทดลองดูความน่ารักน่าเอ็นดูของเค้า ความมีน้ำใจ ความใส่ใจที่เค้ามีต่อคุณ ดูอาภรณ์


ชมพาหนะ ชมกระเป๋าสำหรับถือเค้า หรือสิ่งรอบๆตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสบายให้เค้าได้แล้ว และเค้าจะกำเนิดภาคภูมิใจกำเนิดความเชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง แล้วเขาจะรักพวกเรา หากแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธเราจ้ะ ลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า น้ำใจด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางคนหลงผิดว่าการกล่าว"รั ก ษ า น้ำใจ"เป็นการกล่าวในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อให้เค้ากระปรี้กระเปร่า และก็บางเวลามนุษย์เรา ก็ถูกใจที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตนเอง)มากกว่ารั ก ษ า น้ำใ

จึงเลือกพูดไปในสิ่งที่มันไม่จริงเนื่องจากว่ากลัวว่าถ้าเกิดเราพูดเรื่องจริงไป"เราจะดูแย่ และครั้งคราวก็รั ก ษ า ความมีน้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งยังการพูดอะไรที่มันไม่จริงแล้วก็ทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำจ้ะ เพราะว่านอกเหนือจากจะเป็นเสมือนการส่งเสริมความประพฤติของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงเหลิงว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกต้องดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนจะกล่าว แต่ว่าไม่จำเป็นต้องพูด ทุกคำที่เราคิด" ไม่เพียงพอค่ะ ต้องเลือกใช้คำที่จะบอกให้สมควรด้วย

7. เจอคำถามที่จำเป็นต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางสิ่งบางอย่างแล้วเราไม่มั่นใจ ตอบยังไงให้ดูดี

ถ้าเกิดต้องมีการตอบปัญหาที่เป็นปัญหาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรหรือเปล่าควร ดีหรือไม่ดี คุณคิดยังไง จำเป็นต้องทำเช่นไร พบปัญหาเหล่านี้แล้วพวกเราไม่เคยรู้หรือไม่มั่นใจในคำตอบ

ปัญหาคือถ้าเกิดพวกเราไม่ตอบ เราก็ดูแ ย่ ถ้าเกิดเราตอบแล้วตอบผิด ก็มองแ ย่ ไม่แพ้กัน ดังนั้นหนทางของเราให้พวกเราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่ตรงนี้จ้ะ


⁃ คำตอบของคุณจำเป็นต้องไม่ไปพาดพิงใครกันแน่ ไม่เป็นการติเตียนผู้ใด


⁃ ใช้เหตุส่งผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบมากเพิ่มขึ้น ตอบช้าๆได้ค่ะ ไม่เป็นไร เบาๆใช้สมอง ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ เจาะจงถึงเหตุผลแหล่งที่มาให้แจ่มแจ้ง

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ฉันอย า กช่วยมากมายๆเลยคะ เลยอย า กชี้แนะให้ลองปรึกษาทาง... จะได้คำตอบที่แน่นอนกว่านะค่ะ" นี่คือการปฏิเสธแบบรั ก ษ า น้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ พินิจพิเคราะห์มุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดยังไงบ้ า งค่ะ" แม้กระนั้นกรณีนี้เราต้องมีการเพิ่มความคิดเห็นของพวกเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าพวกเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ดิฉันรู้แต่เพียงว่า... ส่วนที่เสริมเติมจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"วิธีบอกอย่างไรให้คนรักนี้" ข้าพระพุทธเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีคุณประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกคนนะคะ และก็ขอขอบพระคุณจากดวงใจที่อ่ า น มันจนกระทั่งบรรทัดนี้ แม้กระนั้นสิ่งนี้น่าจะเป็นไปได้เพียงแค่คำแนะนำสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณเท่านั้น ถ้าเกิดคุณไม่ทดลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/