การ เนรคุณคน ไม่เคยทำให้ผู้ใดกันแน่ก้าวหน้า

[Fern751]

ผู้ที่เข้ามาหาคุณนั้น มีหลายแบบ พวกเราต้องรู้จักแยกให้ออก

บ้างก็ความเป็นจริง บ้างก็แค่ละคร ให้ดูน่าสงส าร

ครั้งคราวคุณยื่นมือเข้าไปช่วย แทนที่จะได้รับสิ่งที่ดีคืนมา เปลี่ยนเป็นความซ ว ย

แต่ว่าคุณเชื่อเหอะ ถ้าเขาไม่เคยทราบบุญคุณ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ไม่รุ่งโรจน์หรอก

ชีวิตเหมือนจะดีแต่ก็ไม่ ดี ราวกับจะราบรื่นแต่ว่าก็ไม่ราบรื่น


ล้ ม ลุกล้มลุกคลุกคลานอยู่ที่เดิม สุดท้ายก็พั ง หมดท่า

โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไร ทำสิ่งใด ไม่ต้องทวงบุญคุณ

ยอดเยี่ยมเป็น เลิกคบ ออกไปให้ไกลจากชีวิตเขา

มนุษย์เราจะอยู่ตามลำพังคนเดียวตามลำพั ง ไม่ได้ จะต้องพึ่งพาอาศัยกัน

ทั้งยังในด้านพลังกาย กำลังความคิด และก็อื่นๆ

หากได้รับเลี้ยงดูจากคนใดกัน ก็เรียกผู้นั้นว่า ผู้มีบุญคุณหรือผู้มีบุญคุณณ

คนใดกันแน่ช่วยเหลือให้อุปถัมภ์ค้ำชูแก่พวกเรา ก็ไม่ควรจะลืมบุญคุณของคนนั้น


ผู้ไม่ลืมชุบเลี้ยงที่คนอื่นๆมีแก่ตน ย่อมเป็นผู้เจริญด้วย ลาภตำแหน่งสรรเสริญ ไมตรี


แต่คนใดกันแน่ไม่สำนึกในบุญคุณของผู้อื่น หรือดูถูกเหยียดหยามบุญคุณของผู้มีอุปการะของตน

ผู้นั้นจะเป็นผู้ ต่ำ ต้ อ ย ทำความดีไม่ขึ้น เป็นคน อ า ภั พ

แม้ว่าจะพย าย ามขวนขวายอย่างไร ก็มักจะ ล้ ม เ ห ล ว ไม่เป็นท่าเหมือนเดิม

การดูถูกดูแคลนพระคุณของผู้มีบุญคุณณ เขาเรียกว่า การ เ น รคุณ

การ เ น ร คุณเป็นตัว ก า ล กิ ณี จะรอดึงให้คนเ น ร ระอุในต ก ต่ำ

ไม่มีจังหวะ ที่จะแฮปปี้ได้ในชีวิตได้เลย

ด้วยเหตุว่าปราศจากความกตัญญูรู้คุณ ไม่มีความเป็นนักปราชญ์คุณคน

จงคิดให้ได้เหอะ เมื่อคิดได้แล้ว เปลี่ยนแปลงนิสัยตัวเอง ได้ใช้ตามสมควรแล้ว

ชีวิตก็จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยตามสาเหตุต่างๆที่ควรเป็น

รู้บุญคุณคนคนแล้วตอบแทน นี่แหละ เครื่องหมายของคนดี
บุญคุณ
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13590/